หลอดไฟ LED ช่วยประหยัดพลังงานได้จริงหรือไม่?
หลอดไฟ LED (Light Emitting Diode) หรือ ไดโอดเปล่งแสง เป็นอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ที่ผลิตแสงที่มองเห็นได้เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านพวกมัน ไฟ LED เป็นประเภทของหลอดไฟ โซลิดสเตต Solid State (SSL) เช่นเดียวกับไดโอดเปล่งแสง Organic Light-Emitting Diode (OLED) และโพลีเมอร์เปล่งแสง Light Emitting Polymer (LEP) และความสว่างจาก ไดโอดเปล่งแสง (LED) เป็นหนึ่งในวันนี้ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และเป็นเทคโนโลยีของแสงสว่างที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง LED ที่มีคุณภาพสูง จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อ หลอดไฟ LED ที่ได้รับมาตรฐาน มอก. เพื่อความปลอดภัย และได้สินค้าที่มีคุณภาพ และต่อไปนี้เป็นเหตุผลที่ท่านควรพิจารณาเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแอลอีดี
โดยในปัจจุบัน หลอดแอลอีดีถูกพัฒนาอย่างมากจนสามารถใช้งานทดแทนไฟแสงสว่างแทบทุกรูปแบบที่เคยใช้กันมา เพราะทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นป้ายโฆษณา, ไฟจราจร, ไฟส่องสว่างบนถนน, ป้ายไฟ, ไฟตกแต่งอาคาร, ไฟรถยนต์, ไฟจักรยานแม้กระทั่งไฟส่องสว่างหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ในทุกวันนี้ก็ใช้หลอด LED
สำหรับการใช้งานทำหน้าที่ให้แสงส่องสว่างทดทนหลอดไฟแบบเดิมในอดีตนั้นอุตสาหกรรมแอลอีดีก็ได้ผลิตสินค้าหลากหลายรูปแบบเพื่อใช้งานทดแทนหลอดไฟแบบเดิมแทบจะทุกรูปแบบที่มี ไม่ว่าจะเป็น Socket แบบ E27, หลอดฟลูออเรสเซนต์, หลอดนีออน ก็สามารถหาซื้อหลอด LED รูปแบบนั้นๆมาเสียบใช้ทดแทนภายในบ้านหรือสำนักงานได้ทันที โดยไม่ต้องเปลี่ยนโคมไฟหรือรางไฟแบบเดิมแต่อย่างใด วางแผนมาเพื่อทดแทนหลอดไฟแบบเดิมๆได้ลงตัวขนาดนี้แล้วเรามาดูกันดีกว่าว่าข้อดีของหลอดไฟ LED จะตรงตามความต้องการของคุณจนต้องไปหาหลอด LED มาแทนหลอดไฟแบบเดิมที่ใช้งานอยู่หรือไม่
ข้อดีของหลอดแอลอีดี
อายุการใช้งานยาวนาน
เมื่อท่านเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED จะเข้าใจได้ว่า LED นั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหลอดไฟแบบเดิมที่ต้องมีการเปลี่ยนใหม่บ่อยๆ เพราะความร้อนของหลอดมีมากกว่า ทำให้อายุการใช้งานจึงสั้นกว่า ฉะนั้น LED จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ซึ่งท่านก็ควรเลือกซื้อสินค้าที่ได้มาตรฐานด้วยนะครับ และนั้นก็เป็นไปได้ที่จะทำให้ท่านประหยัดเงินได้มากขึ้นในช่วงระยะเวลารวมของการใช้งาน
ในปัจจุบันหลอดไฟ LED ขนาด 3 วัตต์ สามารถใช้ทดแทนหลอดไส้เดิมได้ที่ขนาด 25 วัตต์ ซึ่งก็แปลว่าท่านจะสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากกว่า 80% เลยทีเดียว หลอด LED มีการออกแบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการระบายความร้อนได้ดีกว่า หลอดไฟแบบเดิม จึงช่วยยืดอายุการใช้งานของหลอดได้เป็นอย่างดี
ลดความร้อนโดยรวม
เนื่องจาก LED มีความร้อนที่ต่ำกว่าหลอดไฟแบบเดิมอยู่มาก ทำให้ความร้อนโดยรวมภายใน บ้าน หรือ อาคาร ลดลงไปด้วย ซึ่งนี้เป็นข้อดีของหลอดแอลอีดี และเมื่อความร้อนโดยรวมลดลงก็จะส่งผลให้อุณหภูมิภายในบ้านท่านเย็นขึ้น ช่วยให้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทำงานลดลง เช่น เครื่องปรับอากาศ และ ตู้เย็น หรือแม้กระทั่งยังช่วยยืดอายุการใช้งานโดยรวมของเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ได้อีกด้วย อย่างเช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ เป็นต้น ฟังดูแล้วอาจจะดูเหมือนเกินความจริง แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่ท่านใช้อยู่ ล้วนแล้วแต่ส่งความร้อนออกมาทั้งสิ้น ซึ่งส่งผลโดยรวมต่ออุณหภูมิภายในบ้านของท่านทั้งหมด หากลองสังเกตุดีๆ เมื่อท่านปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่าง รวมถึง ปิดหลอดไฟทุกดวง ท่านจะรู้สึกได้ว่าอุณหภูมิโดยรวมลดลงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นหากท่านเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED ก็จะช่วยลดความร้อนโดยรวมภายในบ้านของท่านได้เป็นอย่างดี
ประสิทธิภาพของไฟแอลอีดี
หลอดไฟแบบเดิม เช่น หลอดไส้ และ หลอดนีออน มีการสูญเสียของพลังงานไฟฟ้ามาก (Load Factor) และตัวหลอดมีการกระจายของแสงหลายทิศทาง ทำให้สูญเสียความสว่างไปโดยไม่จำเป็น ซึงตรงกันข้ามกับ LED ที่มีการพุ่งของแสงในทิศทางเดียว ทำให้แสงมีความเข้มสูง และได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี ทำให้มีประสิทธิภาพในการส่องสว่างที่ดีกว่าหลอดไฟแบบเดิม โดยเปรียบเทียบ LED ทำงานที่อุณหภูมิต่ำและผลิตรูปแบบที่มุ่งเน้นมากขึ้นของแสง ส่วนหลอดไฟไส้ทั่วไปทำงานที่ระดับประสิทธิภาพที่ต่ำกว่า นั่นเป็นเพราะพลังงานจะถูกกลืนหายไปในรูปของความร้อนมากกว่านั้นเอง
แสงของไฟแอลอีดี
หลายท่านกลัวว่าแสงจาก LED จะสว่างน้อยกว่าหลอดไฟแบบเดิม ซึ่งอาจจะจริงในยุคที่ไฟแอลอีดีเพิ่งเริ่มถูกนำมาใช้ แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้พัฒนาหลอดไฟแอลอีดีให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้แสงสว่างจากหลอด LED มีความสว่างมากกว่าหลอดไฟแบบเดิมค่อนข้างมาก โดยปัจจุบันหลอด LED ยังสามารถแสดงแสงเป็นสีสรรต่างๆ ได้เช่นเดียวกันกับหลอดไฟไส้เดิม เช่น แสงเดย์ไลท์ (6500K) และ แสงวอร์มไวท์ (3000K) รวมไปถึง แสงสี แดง เขียว น้ำเงิน (RGB) ซึ่งสามารถแสดงแสงสีออกมาได้หลากหลายเฉดสีมาก บางรุ่นมีระบบรีโมทควบคุมที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นช่วยให้การตั้งค่าสีที่จะจัดการได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้หลอดไฟแอลอีดียังสามารถใช้ร่วมกับสวิทช์ไฟหรี่ เพื่อปรับระดับความสว่างของแสงให้มีความสว่าง มาก ปานกลาง น้อย ได้เป็นอย่างดี
ของเสียจากไฟแอลอีดี
หลอดไฟแอลอีดี แตกต่างจากหลอดไฟนีออนตรงที่ ไฟ LED ไม่ปล่อยสารปรอทในอากาศ และไม่มีแสงยูวีที่เป็นอันตราย รวมไปถึงลำแสงที่ออกมาจากหลอดแอลอีดีเป็นลำแสงเย็น ปราศจากรังสีอินฟราเรด (IR) หรือรังสีความร้อน แต่หากกรณีท่านมีหลอดแอลอีดีที่เสีย หรือ แตกหัก ต้องการที่จะทิ้ง เราขอแนะให้ท่านใช้ถุงมือ ทั้งนี้แม้ว่า LED จะไม่มีสารที่เป็นพิษ แต่วัสดุที่ใช้ในการผลิตร่วมกับ LED ยังคงมีวัสดุบางอย่างที่เป็นพิษอยู่ ดังนั้นจึงควรป้องกันไว้ก่อน แล้วควรแยกทิ้งหลอดแอลอีดีที่เสียแล้วออกจากขยะทั่วไป เพื่อช่วยในการคัดแยกขยะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล
เปิดติดทันทีไม่กระพริบ
หนึ่งในข้อเสียของหลอดไฟนีออน คือ เมื่อเวลาเราเปิดใช้งานจะไม่ติดทันทีจะกระพริบก่อนติด นอกเสียจากท่านจะใช้ร่วมกับบัลลาสต์อิเล็คทรอนิกส์ซึ่งทำให้หลอดติดได้โดยไม่กระพริบ แตกต่างจาก หลอดไฟแอลอีดี ที่สามารถเปิดติดได้ทันที โดยไม่กระพริบ และยังไม่ต้องใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงใดๆ ในการเปิดหลอดแอลอีดี โดยท่านสามารถต่อกระแสไฟตรงเข้าตัวหลอดแอลอีดีได้เลย ติดตั้งง่ายกว่ามาก สะดวกรวดเร็ว น้ำหนักเบา และมีขนาดเล็กกว่าเมื่อติดตั้งร่วมกับรางแอลอีดี
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำกว่า
เมื่อท่านติดตั้ง ไฟ LED ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษามีแนวโน้มที่จะต่ำลงมาก เนื่องจาก LED เปิดติดได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ต่อพ่วงใดๆ อาทิเช่น บัลลาสต์ และ สตาร์ทเตอร์ รวมไปถึงมีการใช้สายไฟในการเชื่อมต่อที่น้อยกว่า และ หลอดไฟ LED ปัจจุบันยังมีการรับประกันจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน มอก. อย่างน้อย 1 – 3 ปี (ขึ้นอยู่กับอายุการใช้งานของหลอดแต่ละรุ่น) ดังนั้นค่าใช้จ่ายหลังจากที่ท่านเปลี่ยนมาใช้หลอดแอลอีดีแล้วแทบจะไม่มีเลย หรือมีก็น้อยลงมาก
หลอดไฟ LED ช่วยประหยัดพลังงานได้จริงหรือไม่?
หลอดไฟ LED (Light Emitting Diode) หรือ ไดโอดเปล่งแสง เป็นอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ที่ผลิตแสงที่มองเห็นได้เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านพวกมัน ไฟ LED เป็นประเภทของหลอดไฟ โซลิดสเตต Solid State (SSL) เช่นเดียวกับไดโอดเปล่งแสง Organic Light-Emitting Diode (OLED) และโพลีเมอร์เปล่งแสง Light Emitting Polymer (LEP) และความสว่างจาก ไดโอดเปล่งแสง (LED) เป็นหนึ่งในวันนี้ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และเป็นเทคโนโลยีของแสงสว่างที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง LED ที่มีคุณภาพสูง จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อ หลอดไฟ LED ที่ได้รับมาตรฐาน มอก. เพื่อความปลอดภัย และได้สินค้าที่มีคุณภาพ และต่อไปนี้เป็นเหตุผลที่ท่านควรพิจารณาเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟแอลอีดี
โดยในปัจจุบัน หลอดแอลอีดีถูกพัฒนาอย่างมากจนสามารถใช้งานทดแทนไฟแสงสว่างแทบทุกรูปแบบที่เคยใช้กันมา เพราะทุกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นป้ายโฆษณา, ไฟจราจร, ไฟส่องสว่างบนถนน, ป้ายไฟ, ไฟตกแต่งอาคาร, ไฟรถยนต์, ไฟจักรยานแม้กระทั่งไฟส่องสว่างหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ในทุกวันนี้ก็ใช้หลอด LED
สำหรับการใช้งานทำหน้าที่ให้แสงส่องสว่างทดทนหลอดไฟแบบเดิมในอดีตนั้นอุตสาหกรรมแอลอีดีก็ได้ผลิตสินค้าหลากหลายรูปแบบเพื่อใช้งานทดแทนหลอดไฟแบบเดิมแทบจะทุกรูปแบบที่มี ไม่ว่าจะเป็น Socket แบบ E27, หลอดฟลูออเรสเซนต์, หลอดนีออน ก็สามารถหาซื้อหลอด LED รูปแบบนั้นๆมาเสียบใช้ทดแทนภายในบ้านหรือสำนักงานได้ทันที โดยไม่ต้องเปลี่ยนโคมไฟหรือรางไฟแบบเดิมแต่อย่างใด วางแผนมาเพื่อทดแทนหลอดไฟแบบเดิมๆได้ลงตัวขนาดนี้แล้วเรามาดูกันดีกว่าว่าข้อดีของหลอดไฟ LED จะตรงตามความต้องการของคุณจนต้องไปหาหลอด LED มาแทนหลอดไฟแบบเดิมที่ใช้งานอยู่หรือไม่
ข้อดีของหลอดแอลอีดี
อายุการใช้งานยาวนาน
เมื่อท่านเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED จะเข้าใจได้ว่า LED นั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหลอดไฟแบบเดิมที่ต้องมีการเปลี่ยนใหม่บ่อยๆ เพราะความร้อนของหลอดมีมากกว่า ทำให้อายุการใช้งานจึงสั้นกว่า ฉะนั้น LED จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ซึ่งท่านก็ควรเลือกซื้อสินค้าที่ได้มาตรฐานด้วยนะครับ และนั้นก็เป็นไปได้ที่จะทำให้ท่านประหยัดเงินได้มากขึ้นในช่วงระยะเวลารวมของการใช้งาน
ในปัจจุบันหลอดไฟ LED ขนาด 3 วัตต์ สามารถใช้ทดแทนหลอดไส้เดิมได้ที่ขนาด 25 วัตต์ ซึ่งก็แปลว่าท่านจะสามารถประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากกว่า 80% เลยทีเดียว หลอด LED มีการออกแบบที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการระบายความร้อนได้ดีกว่า หลอดไฟแบบเดิม จึงช่วยยืดอายุการใช้งานของหลอดได้เป็นอย่างดี
ลดความร้อนโดยรวม
เนื่องจาก LED มีความร้อนที่ต่ำกว่าหลอดไฟแบบเดิมอยู่มาก ทำให้ความร้อนโดยรวมภายใน บ้าน หรือ อาคาร ลดลงไปด้วย ซึ่งนี้เป็นข้อดีของหลอดแอลอีดี และเมื่อความร้อนโดยรวมลดลงก็จะส่งผลให้อุณหภูมิภายในบ้านท่านเย็นขึ้น ช่วยให้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ทำงานลดลง เช่น เครื่องปรับอากาศ และ ตู้เย็น หรือแม้กระทั่งยังช่วยยืดอายุการใช้งานโดยรวมของเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ได้อีกด้วย อย่างเช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ เป็นต้น ฟังดูแล้วอาจจะดูเหมือนเกินความจริง แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่ท่านใช้อยู่ ล้วนแล้วแต่ส่งความร้อนออกมาทั้งสิ้น ซึ่งส่งผลโดยรวมต่ออุณหภูมิภายในบ้านของท่านทั้งหมด หากลองสังเกตุดีๆ เมื่อท่านปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่าง รวมถึง ปิดหลอดไฟทุกดวง ท่านจะรู้สึกได้ว่าอุณหภูมิโดยรวมลดลงอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นหากท่านเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED ก็จะช่วยลดความร้อนโดยรวมภายในบ้านของท่านได้เป็นอย่างดี
ประสิทธิภาพของไฟแอลอีดี
หลอดไฟแบบเดิม เช่น หลอดไส้ และ หลอดนีออน มีการสูญเสียของพลังงานไฟฟ้ามาก (Load Factor) และตัวหลอดมีการกระจายของแสงหลายทิศทาง ทำให้สูญเสียความสว่างไปโดยไม่จำเป็น ซึงตรงกันข้ามกับ LED ที่มีการพุ่งของแสงในทิศทางเดียว ทำให้แสงมีความเข้มสูง และได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี ทำให้มีประสิทธิภาพในการส่องสว่างที่ดีกว่าหลอดไฟแบบเดิม โดยเปรียบเทียบ LED ทำงานที่อุณหภูมิต่ำและผลิตรูปแบบที่มุ่งเน้นมากขึ้นของแสง ส่วนหลอดไฟไส้ทั่วไปทำงานที่ระดับประสิทธิภาพที่ต่ำกว่า นั่นเป็นเพราะพลังงานจะถูกกลืนหายไปในรูปของความร้อนมากกว่านั้นเอง
แสงของไฟแอลอีดี
หลายท่านกลัวว่าแสงจาก LED จะสว่างน้อยกว่าหลอดไฟแบบเดิม ซึ่งอาจจะจริงในยุคที่ไฟแอลอีดีเพิ่งเริ่มถูกนำมาใช้ แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้พัฒนาหลอดไฟแอลอีดีให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมาก ทำให้แสงสว่างจากหลอด LED มีความสว่างมากกว่าหลอดไฟแบบเดิมค่อนข้างมาก โดยปัจจุบันหลอด LED ยังสามารถแสดงแสงเป็นสีสรรต่างๆ ได้เช่นเดียวกันกับหลอดไฟไส้เดิม เช่น แสงเดย์ไลท์ (6500K) และ แสงวอร์มไวท์ (3000K) รวมไปถึง แสงสี แดง เขียว น้ำเงิน (RGB) ซึ่งสามารถแสดงแสงสีออกมาได้หลากหลายเฉดสีมาก บางรุ่นมีระบบรีโมทควบคุมที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นช่วยให้การตั้งค่าสีที่จะจัดการได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้หลอดไฟแอลอีดียังสามารถใช้ร่วมกับสวิทช์ไฟหรี่ เพื่อปรับระดับความสว่างของแสงให้มีความสว่าง มาก ปานกลาง น้อย ได้เป็นอย่างดี
ของเสียจากไฟแอลอีดี
หลอดไฟแอลอีดี แตกต่างจากหลอดไฟนีออนตรงที่ ไฟ LED ไม่ปล่อยสารปรอทในอากาศ และไม่มีแสงยูวีที่เป็นอันตราย รวมไปถึงลำแสงที่ออกมาจากหลอดแอลอีดีเป็นลำแสงเย็น ปราศจากรังสีอินฟราเรด (IR) หรือรังสีความร้อน แต่หากกรณีท่านมีหลอดแอลอีดีที่เสีย หรือ แตกหัก ต้องการที่จะทิ้ง เราขอแนะให้ท่านใช้ถุงมือ ทั้งนี้แม้ว่า LED จะไม่มีสารที่เป็นพิษ แต่วัสดุที่ใช้ในการผลิตร่วมกับ LED ยังคงมีวัสดุบางอย่างที่เป็นพิษอยู่ ดังนั้นจึงควรป้องกันไว้ก่อน แล้วควรแยกทิ้งหลอดแอลอีดีที่เสียแล้วออกจากขยะทั่วไป เพื่อช่วยในการคัดแยกขยะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล
เปิดติดทันทีไม่กระพริบ
หนึ่งในข้อเสียของหลอดไฟนีออน คือ เมื่อเวลาเราเปิดใช้งานจะไม่ติดทันทีจะกระพริบก่อนติด นอกเสียจากท่านจะใช้ร่วมกับบัลลาสต์อิเล็คทรอนิกส์ซึ่งทำให้หลอดติดได้โดยไม่กระพริบ แตกต่างจาก หลอดไฟแอลอีดี ที่สามารถเปิดติดได้ทันที โดยไม่กระพริบ และยังไม่ต้องใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงใดๆ ในการเปิดหลอดแอลอีดี โดยท่านสามารถต่อกระแสไฟตรงเข้าตัวหลอดแอลอีดีได้เลย ติดตั้งง่ายกว่ามาก สะดวกรวดเร็ว น้ำหนักเบา และมีขนาดเล็กกว่าเมื่อติดตั้งร่วมกับรางแอลอีดี
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำกว่า
เมื่อท่านติดตั้ง ไฟ LED ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษามีแนวโน้มที่จะต่ำลงมาก เนื่องจาก LED เปิดติดได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ต่อพ่วงใดๆ อาทิเช่น บัลลาสต์ และ สตาร์ทเตอร์ รวมไปถึงมีการใช้สายไฟในการเชื่อมต่อที่น้อยกว่า และ หลอดไฟ LED ปัจจุบันยังมีการรับประกันจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน มอก. อย่างน้อย 1 – 3 ปี (ขึ้นอยู่กับอายุการใช้งานของหลอดแต่ละรุ่น) ดังนั้นค่าใช้จ่ายหลังจากที่ท่านเปลี่ยนมาใช้หลอดแอลอีดีแล้วแทบจะไม่มีเลย หรือมีก็น้อยลงมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น